Sergio Perez กำลังอยู่กับความผิดหวัง หลังจากจบการแข่งขัน Maxico City Grand Prix เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
จากการให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน เขาได้บอกว่าการที่เสี่ยงและพยายามจะแซงจากด้านนอกของ Max Verstappen เพื่อนร่วมทีม Red Bull และ Charles Leclerc จากทีม Ferrari ในโค้งที่ 1 นั้นเป็นเรื่องที่ควรจะทำและเขาคิดถูกต้องแล้ว
แต่คนที่ได้ดูในวันนั้นหลายคนคงจะคิดว่ามันเป็นการเสี่ยงโดยที่ไม่จำเป็น โดยหลังจากสัญญาณไฟแดงดับลง และรถทุกคันต่างออกสตาร์ทชิงจังหวะและพื้นที่เพื่อขึ้นหน้า Charles Leclerc และ Carlos Sainz คู่หูจากทีม Ferrari ที่ได้ออกสตาร์ทแถวหน้าในอันดับ 1 และ 2 ต่างก็ทำได้ไม่ดีนัก Charles Leclerc ออกตัวได้ช้ากว่าเท่าที่ควร ส่วน Carlos Sainz ก็ทำได้ไม่ดีเช่นกัน ทำให้ Max Verstappen ที่ออกสตาร์ทในอันดับ 3 และ Sergio Perez ที่ออกสตาร์ทในอันดับ 5 สามารถขึ้นมาประกบรถของ Charles Leclerc ทั้งสองด้านเหมือนเป็นแซนวิชที่มี Ferrari อยู่ตรงกลาง โดยที่ Max Verstappen นั้นได้เปรียบกว่าเพราะอยู่ด้านในก่อนที่จะเข้าโค้งที่ 1 ซึ่งเป็นโค้งหักศอกขวา

Charles Leclerc ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากไปกว่าประคองรถและรักษาระยะห่างทั้งซ้ายและขวาระหว่าง Max Verstappen และ Sergio Perez เพื่อที่จะเบรกและชะลอความเร็วเข้าโค้งที่ 1
Charles Leclerc ซึ่งไม่มีพื้นที่ให้ไปไหนได้มากนัก Ferrari ของเขาถูกขนาบทั้งสองด้านด้วย Red Bull ยังไงเสียก็ต้องเข้าโค้งนี้ตามไลน์ที่ตัวเองวิ่งมา และปล่อยให้ Max Verstappen แซงขึ้นหน้าไปในโค้งแรก ส่วน Sergio Perez ที่อยู่ด้านซ้ายของ Charles Leclerc ก็กล้าหาญพอที่จะเบรกให้ลึกว่า Charles Leclerc เพื่อที่จะได้ล้ำขึ้นหน้าและแซงตัดจากด้านนอก ซึ่งหากสามารถทำได้สำเร็จ ก็อาจจะขึ้นไปประกบกับ Max Verstappen และกุมความได้เปรียบในโค้งที่ 2 ซึ่งเป็นโค้งซ้าย

ผลของความกล้าบ้าบิ่นในครั้งนี้มันทำให้เกิดการปะทะกันระหว่าง Sergio Perez กับ Charles Leclerc โดยที่ Sidepods ด้านขวาของ Sergio Perez กระแทกเข้ากับล้อหน้าซ้ายของ Charles Leclerc และล้อหลังด้านขวาของ Sergio Perez ก็ปีนล้อหน้าด้านหลังซ้ายของ Charles Leclerc ซ้ำเข้าไปอีก จนทำให้รถของ Sergio Perez ถลาลอยขึ้นไปกลางอากาศ ก่อนลงมากระเทกพื้นและเกิดความเสียหายหลายแห่งจนต้องออกจากการแข่งขันไป ปิดฉากการแข่งในสนามที่เป็น Home race ของตัวเองไปในรอบแรกเท่านั้น



อะไรที่ผลักดันให้ Sergio Perez ต้องเสี่ยงขนาดนั้น ?
เหตุผลที่ Sergio Perez นั้นมุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีเป็นพิเศษนั่นก็เพราะว่า สนามนี้มันคือสนาม Home race ของเขาเอง มีแฟนๆ Formula One ชาวแม็กซิกันเข้ามาชมการแข่งขันในสนามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถึง 135,000 คน และแฟนๆหลายคนก็คาดหวังว่า Sergio Perez นั้นสามารถชนะการแข่งขันได้ เพราะ Sergio Perez นั้นทำผลงานได้ดีมาโดยตลอดตั้งแต่รอบฝึกซ้อม ส่วนในรอบคัดเลือกจัดอันดับ เขาก็ทำเวลาตามหลังเพื่อนร่วมทีมอย่าง Max Verstappen เพียงแค่ 0.19 วินาทีเท่านั้น ไม่แปลกใจหากว่า Sergio Perez เองก็หวังถึงชัยชนะด้วยเช่นกัน
Sergio Perez ได้รับการสนันสนุนที่ดีจากแฟนๆชาวแม็กซิกันมาโดยตลอด ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสีเสื้อของทีมไหนก็ตาม ทุกปีที่ปฏิทินการแข่งขันวนมาบรรจบที่สนาม Maxico City Grand Prix จะพบเห็นกองเชียร์เจ้าถิ่นพร้อมใจกันถือป้ายที่มีข้อความเชียร์ Sergio Perez หรือธงชาติ Maxico เพื่อส่งแรงเชียร์ไปถึง Sergio Perez นักแข่งชาวแม็กชิกันหนึ่งเดียวในการแข่งขัน Formula One


” โอกาสมันอยู่ต่อหน้าผมตรงนั้น “
Sergio Perez ให้สัมภาษณ์สื่อหลังการแข่งขันจบลงไว้ว่า
” ผมพยายามคว้าชัยชนะที่บ้าน โอกาสมันก็อยู่ต่อหน้าผมตรงนั้น ผมจะทำอะไรได้อีก ผมต้องเสี่ยง แต่ในวันนี้ผมเสี่ยงมากเกินไป แต่ผมต้องการชนะจริงๆ “
Max Verstappen เพื่อนร่วมทีม Red Bull ก็ได้ออกมาพูดถึง Sergio Perez ไว้ว่า ” ผมเข้าใจ Sergio Perez นะ เพราะที่นี่คือบ้านของเขา เขาต้องการขึ้นโพเดี้ยม และเขาก็ออกไปทำหน้าที่และพยายามอย่างสุดความสามารถ “ Max Verstappen กล่าวเสริมอีกว่า ” เมื่อลองดูภาพจังหวะนั้นแล้ว ถ้ามันได้ผล มันจะเป็นการแซงที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นที่สุดของการแข่งในวันนี้เลย “
Sergio Perez กับความกดดันที่กำลังถาโถมเข้ามา
Sergio Perez กำลังเผชิญกับความกดดันในอีกหลายเรื่อง หรือนั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องดิ้นรนและเป็นส่วนผสมของความผิดพลาดในการแข่งขันที่ Maxico city Grand Prix ที่ผ่านมา?
นักวิเคราะห์ของกีฬา Formula One หลายคนมองว่า การที่ Daniel Ricciardo ถูกดึงตัวกลับมาสู่ทีม Red Bull ในฐานะนักแข่งสำรอง และปัจจุบันได้เป็นนักแข่งของทีมน้องอย่าง Alpha Tauri แทนที่ Nyck De Vries ที่โดนอัปเปหิออกจากทีม Alpha Tauri กลางฤดูกาลเนื่องจากผลงานที่ย่ำแย่
Daniel Ricciardo ได้แสดงผลงานที่น่าพอใจใน 2 สนามแรกหลังจากที่กลับมาแข่งขัน Formula One อีกครั้ง แต่ก็มีอันต้องพักการแข่งขันไปถึง 5 สนามเพราะมือหัก การกลับมาที่สนาม USA. หนึ่งสัปดาห์ก่อน การขับของ Daniel Ricciardo ก็ยังขึ้นๆลงๆ แต่ที่สนาม Maxico city Grand Prix เขากลับทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยทำเวลาในรอบคัดเลือกจัดอันดับตามหลัง Max Verstappen เพียง 0.1 วินาที และออกสตาร์ทในอันดับที่ 4 ซึ่งปาดหน้า Sergio Perez ที่ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 เพียงไม่กี่มิลลิวินาที และท้ายที่สุดจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 7 คว้าคะแนนสะสมไปได้ 6 แต้ม

การที่ Daniel Ricciardo มีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องนั้น ถ้าเป็นนักแข่งทีมอื่น Sergio Perez เองก็คงไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักเพราะคะแนนสะสมของ Daniel ยังห่างไกลจากเขามากนัก แต่ Daniel Ricciardo นั้นคือนักแข่งลูกหม้อของทีม Red Bull และเคยมีดีกรีเคยเป็นถึงนักแข่งมือ 1 ของทีม Red Bull ในอดีต แถม Christian Horner หัวหน้าทีม Red Bull ได้ออกปากชมลูกน้องเก่าคนนี้อยากเปิดเผยว่า
” Daniel Ricciardo โดดเด่นมากในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การต่อสู้กับทีม Mercedes ด้วยรถของทีม Alpha Tauri นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เขาดูเหมือน Daniel คนเก่าที่ผมเคยทำงานด้วย “
ถึงแม้ตอนนี้ Daniel Ricciardo จะอายุ 34 ปีแล้วก็ตาม การแข่งให้กับทีมน้องอย่าง Alpha Tauri และทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ก็ย่อมจะส่งผลต่อความมั่นคงในเก้าอี้นักแข่งของทีม Red Bull และสั่นคลอนจิตใจของ Sergio Perez ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเราก็เห็นแล้วว่าอายุไม่ใช่ข้อจำกัดของ Formula One จากการกลับมาแข่งขันอีกครั้งให้กับทีม Aston Martin ของ Fernado Alonso ในวัย 41 ปี ซึ่งแสดงผลงานได้อย่างดีไม่แพ้เด็กรุ่นใหม่หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำในบางสนามที่ผ่านมา
” Lewis Hamilton กำลังหายใจรดต้นคอ “

เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่กำลังกดดัน Sergio Perez อยู่นั่นก็คือ Lewis Hamilton ที่ทำคะแนนสะสมใกล้เข้ามาจ่อท้าย Sergio Perez จนเหลือช่องว่างของคะแนนเพียงแค่ 20 คะแนนเท่านั้น กับการแข่งขันที่เหลืออีก 3 สนาม อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าตำแหน่งแชมป์โลกของทั้งนักแข่งและทีมผู้ผลิตจะถูกตัดสินไปแล้วโดยที่ทีม Red Bull กวาดไปทั้งหมดในปีนี้ แต่คะแนนสะสมประเภทนักแข่งก็ยังคงเป็นศักดิ์ศรีที่มิอาจจะยอมให้กันได้ง่ายๆ
โดยที่คะแนนสะสมไล่ตั้งแต่อันดับ 2-8 ในทางทฤษฎีแล้วนักแข่งทุกคนยังสามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 กันได้หมด แต่เงื่อนไขก็จะยาก-ง่ายแตกต่างกันออกไปตามสัดส่วนคะแนน โดยมีคะแนนดังนี้
Sergio Perez 240 คะแนน
Lewis Hamilton 220 คะแนน
Carlos Sainz 183 คะแนน
Fernando Alonso 183 คะแนน
Lando Norris 169 คะแนน
Charles Leclerc 166 คะแนน
George Russell 151 คะแนน
ถึงแม้ว่าคู่หู Red Bull จะโกยคะแนนมาได้ในช่วงต้นจนถึงกลางฤดูกาลมาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำโดยที่ Max Verstappen ขึ้นโพเดี้ยมอันดับ 1 เป็นว่าเล่นจนสร้างสถิติชนะติดกันได้ 10 สนาม ส่วน Sergio Perez ก็ทำหน้าที่ Wing man ของ Max ได้อย่างไร้ที่ติ และได้ขึ้นโพเดี้ยมถึง 8 สนาม จนส่งผลให้คะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิตนั้น Red Bull นำโด่งจนสามารถได้แชมป์ไปตั้งแต่สนามที่ 16 ที่ญี่ปุ่น ส่วน Max Verstappen ก็คว้าแชมป์โลกประเภทนักขับไปด้วยเช่นกัน
หากแต่อันดับที่ 2 ของประเภทนักแข่งและทีมผู้ผลิตนั้นยังไม่ได้ตัดสินรู้ผลกัน ความเป็นไปได้มากที่สุดนั้นคงเป็นการแข่งขันชิงอันดับที่ 2 ในประเภทนักแข่งกันระหว่าง Sergio Perez กับ Lewis Hamilton ส่วนประเภททีมผู้ผลิตก็คงเป็นการชิงที่ 2 กันระหว่าง Mercedes กับ Ferrari
แน่นอนว่าด้วยการแข่งขันที่เหลืออยู่อีก 3 สนาม Sergio Perez กับ Lewis Hamilton ทั้งคู่คงไม่มีใครยอมใครแน่ๆ Sergio Perez เองก็ต้องต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของทีม Red Bull ที่ต้องการจะกวาดแชมป์ในปีนี้แบบเพอร์เฟคโดยที่ชนะเลิศในประเภททีมผู้ผลิตซึ่ง Red Bull ก็ทำได้ไปแล้ว เหลือแค่ประเภทนักขับที่ต้องจบอันดับ 1 และ 2 จึงจะเรียกได้ว่าชนะแบบเพอร์เฟคเด็ดขาดของจริง และที่สำคัญตัวของ Sergio Perez ต้องต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเองในทีมด้วยเช่นกัน
ส่วนอดีตแชมป์โลก 7 สมัยอย่าง Lewis Hamilton ที่ทำผลงานมาได้อย่างคงเส้นคงวามาโดยตลอดในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ตัวรถของทีม Mercedes ยังคงมีปัญหาที่ยังแก้ไขได้ไม่จบมาโดยตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการเปลี่ยนกฎเรื่องชิ้นส่วน Airodynamis ในส่วนต่างๆของตัวรถแต่ Lewis Hamilton ก็ยังคงต่อสู้และช่วยให้ทีม Mercedes เก็บข้อมูลที่สำคัญ ทำให้การปรับแต่งตัวรถดีขึ้นมาเป็นลำดับ จนเกือบจะสามารถขึ้นมาไล่เฆี่ยนทีม Red Bull ได้ในบางจังหวะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวรถของทีม Mercedes ตอนนี้ยังไม่สามารถจมคันเร่งและไล่แซงทีม Red Bull ได้เหมือนเมื่อก่อน
แต่การที่ช่วงหลังนับจากช่วงพักการแข่งขันในช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา Sergio Perez เองก็ทำคะแนนหลุดมือไปเยอะมากรวมถึงสนามล่าสุดที่ทำไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว ทำให้ Lewis Hamilton ปิดช่องว่างของคะแนนมาเหลือแค่ 20 คะแนน จ่อท้ายหายใจรดต้นคอ Sergio Perez แน่นอนว่านักแข่งระดับ Lewis Hamilton เขาไม่ยอมปล่อยให้โอกาสที่จะเก็บแต้มทำคะแนนหลุดมือไปง่ายๆอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การช่วงชิงในอันดับที่ 2 แต่มันก็ยังต้องไว้ลายและแสดงศักดิ์ศรีของอดีตแชมป์โลกเอาไว้ เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องเก็บคะแนนให้กับทีม Mercedes เพื่อไม่ให้ทีม Ferrari ทำคะแนนแซงได้ในอันดับของคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
อนาคตของ Sergio Perez จะเป็นอย่างไร?

หลังจากมีกระแสในแง่ลบของ Sergio Perez ออกมาเป็นระยะๆหลังจากจบการแข่งขัน Maxico City Grand Prix ทางต้นสังกัดอย่าง Red Bull ได้ออกมาสนับสนุน Sergio Perez ผ่านทาง Christian Horner บอสของทีมว่า
” Red Bull ยังคงสนับสนุน Sergio Perez อย่างเต็มที่ และคาดว่าเขาจะคืนฟอร์มเก่งได้อย่างแน่นอน พวกเรารู้ว่าเขามีความสามารถที่จะทำอะไรได้ และเขามุ่งมั่นที่จะจบการแข่งขันในปีนี้ด้วยอันดับที่ 2 ในคะแนนประเภทนักแข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมไม่เคยทำได้มาก่อน เราจะสนับสนุนเขาด้วยสิ่งที่เรามีทั้งหมด”
ส่วน Sergio Perez ก็ออกมายืนยันว่าเขาจะทำให้ฤดูกาลนี้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งและทำผลงานให้ดีที่สุดกับ 3 สนามที่เหลือในฤดูกาลนี้ และทำให้ทีม Red Bull กลายเป็นเพอร์เฟคแชมป์ได้อย่างแน่นอน……

ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน Formula One ฤดูกาล 2023
Oct 31 2023


