สนามสุดท้าย Abu Dhabi Grand Prix
การแข่งขัน Formula One ฤดูกาล 2023 สนามที่ 23 สนามสุดท้าย Abu Dhabi Grand Prix ก็ได้จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และยังเป็นการรูดม่านปิดฉากฤดูกาลแข่งขันของ Formula One ในปีนี้อย่างเป็นทางการอีกด้วย ในส่วนของการแข่งขันสนามนี้แทบจะไม่เหลือความน่าสนใจอะไรให้ติดตามมากนัก เพราะแชมป์โลกทั้งในประเภททีมผู้ผลิต และประเภทนักแข่งได้รู้ผลไปแล้วตั้งแต่สนามที่ 17 Japanese Grand Prix ซึ่งตกเป็นของทีม Red Bull ทั้ง 2 ประเภท เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลสุดแกร่งของ Red Bull เลยก็ว่าได้ จะเหลือไฮไลท์อะไรที่พอจะให้ได้ลุ้นบ้างก็มีเพียงแค่การแย่งชิงกันเป็นอันดับที่ 2 ของคะแนนในประเภททีมผู้ผลิตระหว่าง Mercedes กับ Ferrari เท่านั้น และจบลงด้วยการที่ Mercedes คว้าอันอับที่ 2 ของคะแนนในประเภททีมผู้ผลิตไปได้ ซึ่งเฉือน Ferrari ไปเพียงแค่ 3 คะแนน
สนับสนุนการแข่งขัน Formula One ฤดูกาล 2023 โดย

ผลการแข่งขัน Abu Dhabi Grand Prix 2023
อันดับที่ 1 Max Verstappen – Red Bull
อันดับที่ 2 Charles Leclerc – Frerari อันดับที่ 3 George Russell – Mercedes

สรุปตารางคะแนนการแข่งขัน Formula One ฤดูกาล 2023


Red Bull Racing กับฤดูกาลที่เพอร์เฟค
หากจะพูดถึงทีม Red Bull Racing นับว่าเป็นฤดูกาลที่ร้อนแรงที่สุดของทีมเลยก็ว่าได้ เพราะในฤดูกาล 2023 นี้ Red Bull Racing ได้กวาดแชป์โลกมาได้ทั้ง 2 ประเภท ทั้ง แชมป์โลกทั้งในประเภททีมผู้ผลิต และประเภทนักแข่งจาก Max Verstappen พ่วงมาด้วยรองแชมป์โลกของ Sergio Perez นักแข่งจากทีมเดียวกัน นับว่าเป็นเพอร์เฟคแชมป์ครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งทีมมาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีม Red Bull เฝ้าหวังมานานแสนนาน
Max Verstappen กับ RB19 รถแข่งที่ทำลายทุกสถิติของ Formula One
นักวิเคราะห์ของกีฬา Formula One หลายคนต่างยกย่องว่า Max Verstappen คือนักแข่งที่แกร่งที่สุดในณะนี้ แน่นอนว่าในเรื่องฝีมือเราต่างยอมรับกันว่าเขาคือนักแข่ง Formula One ระดับท๊อปคลาสไปแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาที่เขาก้าวเข้ามาสู่การแข่งขัน Formula One ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 17 ปี 3 วัน เท่านั้น จนเขาได้แชมป์โลกที่รอคอยในปี 2021 เขาได้พิสูจน์ตัวเองและแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นมาเป็นลำดับ เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการแข่งขันกับร่วมกับทีม Red Bull มาอย่างยาวนาน ถึงแม้ว่าเขาจะดูก้าวร้าวกับทีมงานและเพื่อนร่วมอาชีพบ้างในบางครั้ง แต่นั่นมันก็คือแพชชั่นที่เขาได้แสดงออกมา และทำให้ได้รู้ว่าเขาจริงจังกับการแข่งขันและชัยชนะมากแค่ไหน แต่อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ Max Verstappen นั้นประสบความสำเร็จได้ก็คือรถที่ตัวของเขานั้นใช้แข่ง ซึ่งในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา Red Bull ได้สร้างปีศาจในสนามแข่งขึ้นมาได้สำเร็จ ชนิดที่ว่าทุกทีมต่างพากันมองตามตาปริบๆเลยก็ว่าได้
รถแข่งของทีม Red Bull ถูกมองว่าเป็นรถแข่งที่สมบูรณ์เข้ากับกฏกติกาที่สุดในขณะนี้ เพราะตั้งแต่มีการเปลี่ยนกฏกติกาของการออกแบบตัวรถในปี 2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของส่วนประกอบ Aerodynamic เป็นผลให้ทุกทีมต่างประสบปัญหากับการออกแบบตัวรถกันหมดทั้งสิ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องปัญหาการกระดอนของตัวรถเมื่อใช้ความเร็วสูง เว้นเพียงแต่ทีม Red Bull กับเจ้า RB18 เท่านั้นที่ดูจะออกแบบมาได้อย่างลงตัวและแทบจะไม่พบกับปัญหาอะไรเลย เห็นได้ชัดจากการที่ฤดูกาล 2022 รถแข่งของทีม Red Bull โดยการขับของ Max Verstappen เริ่มออกไล่ล่าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และยังทิ้งห่างคู่แข่งในสนามทุกคันอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายในปีนั้นจบด้วยแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของ Max Verstappen และแชมป์โลกครั้งแรกในประเภททีมผู้ผลิตของ Red Bull
RB18 สร้างสถิติการชนะอันดับที่ 1 ในปี 2022 จาก Max Verstappen ไว้ถึง 15 สนาม และ Sergio Perez ได้รับชัยชนะอันดับที่ 1 ไปทั้งหมด 2 สนาม จากการแข่งขันทั้งหมด 22 สนาม
ฤดูกาล 2023 รถแข่งของทั้ง Max Verstappen และ Sergio Perez ในปีนี้คือเจ้า RB19 ซึ่งอัพเกรดมาจาก RB18 พอสมควร และยังคงเป็นรถแข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามอีกเช่นเคย โดยที่ในปีนี้ Max Verstappen กับเพื่อนซี้คนใหม่อย่างเจ้า RB19 กอดคอกันสร้างสถิติใหม่มากมายชนิดที่เรียกได้ว่าทำให้คู่แข่งทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ไม้ประดับของการแข่งขันในปีนี้เท่านั้น เพราะไม่มีรถแข่งคันไหนสามารถที่จะไล่บี้ Max Verstappen ได้เลยในสนาม เหมือนกับว่าแชมป์โลกในปีนี้ได้ถูกจองไว้ล่วงหน้าให้กับ Max Verstappen อีกหนึ่งปี เพราะเขาทิ้งคู่แข่งได้แบบไม่เห็นฝุ่นและชนะได้แบบขาดลอยเกิน 20 วินาทีแทบจะทุกครั้งที่ขึ้นโพเดี้ยมอันดับที่ 1

รายการสถิติของที่ Max Verstappen ทำลายในฤดูกาล 2023
อย่างที่บอกไว้ว่า Max Verstappen กับเจ้า RB19 ได้ทำลายสถิติของการแข่งขัน Formula One เอาไว้มากมายในปีนี้ จนแทบจะไม่เชื่อว่าเขานั้นทำมันได้อย่างไร มันทั้งน่าทึ่งและเหลือเชื่อที่นักแข่งคนหนึ่งจะสามารถทำมันได้ทั้งหมด ลองมาไล่ดูกันเลยครับว่าปีนี้ Max Verstappen ได้จารึกชื่อเอาไว้ในตำนานบทใดบ้างในการแข่งขัน Formula One ในปีนี้
- มีเปอร์เซ็นในการชนะสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล 86.36%
- ชนะสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล 19 ครั้ง
- เก็บคะแนนสะสมได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 575 แต้ม
- ชนะติดต่อกันมากที่สุด 10 สนาม
- ขึ้นโพเดี้ยมมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 21 ครั้ง
- ขับนำในการแข่งขันมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 1,003 รอบ
- เป็นนักแข่งเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ขับนำการแข่งขันมากกว่า 1,000 รอบ ในหนึ่งฤดูกาล
- เปอร์เซ็นต์นำการแข่งขันมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 75.70%
- ชนะจากการออกสตาร์ทในตำแหน่ง Pole position ติดต่อกันมากที่สุด 5 สนาม
- ชนะจากการออกสตาร์ทในตำแหน่ง Pole position มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 12 ครั้ง
- ช่องว่างคะแนนระหว่างอันดับที่ 1 กับ 2 มากที่สุด 290 แต้ม
- ขึ้นนำในตารางคะแนนสะสมติดต่อกันมากที่สุด 39 สนาม
- จบการแข่งขันใน 2 อันดับแรก ติดต่อกันมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 14 ครั้ง
- ชนะแบบ Grand Slam มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล 6 ครั้ง ( Pole position , ชนะการแข่งในอันดับที่ 1, ทำเวลา Fastest lap )
- เป็นนักแข่งเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ชนะ 3 ครั้ง ในหนึ่งประเทศ ( Miami Grand Prix , United States Grand Prix , Las Vegas Grand Prix )
หลังจากจบการแข่งขันสนามสุดท้ายที่ Abu Dhabi Grand Prix ก็ได้มีคำให้สัมภาษณ์ของ Christian Horner นายใหญ่ของทีม Red Bull ถึงมุมมองในแง่ของความสำเร็จของทีมในปีนี้ไว้ว่า
ไม่มีอะไรที่จะถูกมองข้ามในแง่ของความสำเร็จของพวกเรา หวังว่าเราจะสามารถนำบทเรียนจาก RB19 มาใส่ใน RB20 และสร้างรถที่เราสามารถป้องกันแชมป์เหล่านี้ได้
จากชัยชนะและความสำเร็จอันท่วมท้นของ Max Verstappen และ Red Bull ในฤดูกาลนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เขาคือนักแข่งและทีมแข่งที่กำลังเดินทางเข้าสู่เส้นทางที่จะเป็นตำนานอีกหนึ่งบทของวงการ Formula One แต่คู่แข่งทีมอื่นๆโดยเฉพาะ Mercedes ที่เป็นคู่รักคู่แค้นตลอดกาลของ Red Bull คงจะไม่ปล่อยให้เส้นทางของ Max Verstappen และ Red Bull นั้นง่ายดายเป็นแน่
หลังจบฤดูกาลแข่งขัน 2023 Toto Wolff นายใหญ่ของ Mercedes ได้กล่าวไว้ว่า
ความแตกต่างที่สำคัญคือ Red Bull เข้าใจอย่างชัดเจนว่าจะใช้กฎทางเทคนิคที่ดีที่สุดที่เปิดตัวในปี 2022 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร Red Bull เริ่มต้นด้วยกฎระเบียบเหล่านี้ในปี 2022 โดยสร้างรถที่มีข้อได้เปรียบอย่างมากและสามารถรักษาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน และผมคิดว่าเราประเมินอย่างตรงไปตรงมาว่ารถของเราในปีนี้ยังจะไม่มีวันดีพอที่จะสู้เพื่อชิงแชมป์ได้ เราตัดสินใจในฤดูใบไม้ผลิว่าเราจะกลับไปที่กระดานเขียนแบบและคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ใหม่ปีหน้า
อย่างไรก็ดีในแง่ของแฟนๆ Formula One นั้น ต่างก็ต้องการดูการแข่งขันที่สนุกคู่คี่สูสีที่มีการไล่แซงช่วงชิงอันดับกันอยู่ตลอดเวลา และเชื่อว่าแฟนๆ Formula One ทุกคนอยากจะกลับไปเห็นการแข่งขันที่เบียดแย่งแชมป์โลกกันอย่างสุดมันส์ที่ต้องลุ้นกันจนถึงรอบสุดท้ายของสนามสุดท้ายเหมือนในฤดูกาล 2021
โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อเหลือเกินว่าจะต้องได้เห็นการแข่งขันที่สนุกขึ้นในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน เพราะปีหน้าทุกทีมจะกลับมาพร้อมกับรถแข่งที่พัฒนามาสู้กับ Red Bull ได้อย่างสูสีมากขึ้น หลังจากช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเรื่องของกฏกติกาที่ผ่านมาในปี 2022 ทุกทีมได้สะสมองค์ความรู้ในการพัฒนารถให้เข้ากับกฏได้ดีขึ้นเป็นลำดับ เห็นได้จากผลงานที่ดีขึ้นในครึ่งฤดูกาลหลังของทีม Ferrari ที่ Charles Leclerc ได้ตำแหน่ง Pole position และจบอันดับบนโพเดี้ยมอยู่บ่อยครั้ง หรือทีม Mercedes ที่เห็นได้ชัดว่ารถมีความเสถียรมากขึ้นในช่วงความเร็วสูง กระทั่งทีมกลางตารางที่มีผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาอย่าง McLaren และ Aston Martin สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสัญญาณเตือนไปยัง Red Bull ว่า ฤดูกาล 2024 จะไม่ใช่ฤดูกาลที่ง่ายดายเหมือนกับปีนี้อย่างแน่นอน
Nov. 29 2023


